ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 3 กิจกรรม คือ ได้แก่(1) กิจกรรมแนะแนว (2) กิจกรรมนักเรียน (3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี (รวมถึงกิจกรรมยุวกาชาด) เป็นกิจกรรมหนึ่งในกลุ่มกิจกรรมนักเรียน (กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมชุมนุม) ที่นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม 40 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา (ระดับประถมศึกษา) และ 40 ชั่วโมงต่อภาคเรียน (ระดับมัธยมศึกษา) โดยสำหรับการจัดกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี มีแนวทางการจัดจิกกรรมตามวิธีการลูกเสือ (Scout Method ) ซึ่งมีองค์ประกอบ 7 ประการ คือ
1. คำปฏิญาณและกฎ ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ กฎของลูกเสือมีไว้ให้ลูกเสือเป็นหลักในการปฏิบัติ ไม่ได้ ห้าม “ทำ” หรือบังคับให้ “ทำ” แต่ถ้า “ทำ” ก็จะทำให้เกิดผลดีแก่ตัวเอง เป็นคนดี เช่น ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีเกียรติเชื่อถือได้ ฯลฯ
2. เรียนรู้จากการกระทำ เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานอยู่ที่การกระทำของตนเอง ทำให้มีความรู้ที่ชัดเจนและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวเองและท้าทายความสามารถของตนเอง
3. ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือและเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นการเรียนรู้การใช้ประชาธิปไตยเบื้องต้น
4. การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือเนตรนารีด้วยการใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ได้แก่ เครื่องแบบ เครื่องหมาย การทำความเคารพ รหัส คำปฏิญาณ กฎ คติพจน์ คำขวัญ ธง เป็นต้น วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือแห่งโลก ซึ่งมีสมาชิกทั่วโลก และเป็นองค์กรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในโลก
5. การศึกษาธรรมชาติ เป็นสิ่งสำคัญอันดับ 1 ในกิจกรรมของลูกเสือ ธรรมชาติอันโปร่งใสตามชนบทป่าเขา ป่าละเมาะ และพุ่มไม้ เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งมีการในการไปทำกิจกรรมกับธรรมชาติ การปืนเขา ตั้งค่ายพักแรกในสุดสัปดาห์ หรือ ตามวาระของการอยู่ค่ายพักแรม ตามกฎระเบียบเป็นที่เสน่หาแก่เด็กทุกคน ถ้าขาดการศึกษาธรรมชาติก็ไม่ถือว่าใช้ชีวิตแบบลูกเสือ
6. ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้เด็กทำ ต้องให้มีความก้าวหน้าและดึงดูดใจ สร้างให้เกิดความกระตือรือร้น อยากที่จะทำ และวัตถุประสงค์ในการจัดแต่ละอย่างให้สัมพันธ์กับความหลากหลายในการพัฒนาตนเอง เกมการเล่นที่สนุกสนาน การแข่งขันกันก็เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นการจูงใจที่ดี
7. การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็กเพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไปทั้งคู่มีความต้องการการซึ่งกันและกัน เด็กก็ต้องการให้ผู้ใหญ่เองก็ต้องการนำพาให้ไปสู่หนทางที่ดี ให้ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและดีที่สุด จึงเป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย
2. เรียนรู้จากการกระทำ เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานอยู่ที่การกระทำของตนเอง ทำให้มีความรู้ที่ชัดเจนและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตัวเองและท้าทายความสามารถของตนเอง
3. ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือและเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นการเรียนรู้การใช้ประชาธิปไตยเบื้องต้น
4. การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือเนตรนารีด้วยการใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ได้แก่ เครื่องแบบ เครื่องหมาย การทำความเคารพ รหัส คำปฏิญาณ กฎ คติพจน์ คำขวัญ ธง เป็นต้น วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือแห่งโลก ซึ่งมีสมาชิกทั่วโลก และเป็นองค์กรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในโลก
5. การศึกษาธรรมชาติ เป็นสิ่งสำคัญอันดับ 1 ในกิจกรรมของลูกเสือ ธรรมชาติอันโปร่งใสตามชนบทป่าเขา ป่าละเมาะ และพุ่มไม้ เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งมีการในการไปทำกิจกรรมกับธรรมชาติ การปืนเขา ตั้งค่ายพักแรกในสุดสัปดาห์ หรือ ตามวาระของการอยู่ค่ายพักแรม ตามกฎระเบียบเป็นที่เสน่หาแก่เด็กทุกคน ถ้าขาดการศึกษาธรรมชาติก็ไม่ถือว่าใช้ชีวิตแบบลูกเสือ
6. ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้เด็กทำ ต้องให้มีความก้าวหน้าและดึงดูดใจ สร้างให้เกิดความกระตือรือร้น อยากที่จะทำ และวัตถุประสงค์ในการจัดแต่ละอย่างให้สัมพันธ์กับความหลากหลายในการพัฒนาตนเอง เกมการเล่นที่สนุกสนาน การแข่งขันกันก็เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นการจูงใจที่ดี
7. การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็กเพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจในการที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไปทั้งคู่มีความต้องการการซึ่งกันและกัน เด็กก็ต้องการให้ผู้ใหญ่เองก็ต้องการนำพาให้ไปสู่หนทางที่ดี ให้ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและดีที่สุด จึงเป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย

2. เพื่อให้ลูกเสือ-เนตรนารีเป็นพลเมืองดี รู้จักช่วยเหลือสังคมด้วยความเต็มใจ
3. เพื่อให้ลูกเสือเนตรนารีได้พัฒนาตนเองเต็มศักยภาพจากประสบการณ์ตรงและเรียนรู้เพิ่มเติม
สำหรับการเข้าค่ายพักแรมลูกเสือ-เนตรนารี นั้น ปัจจุบันมีทั้งแบบที่โรงเรียนดำเนินการจัดค่ายเอง และแบบนำนักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือเอกชน ซึ่งก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับนโยบายของผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่ง แต่ไม่ว่าแบบใดก็ตาม คุณครูที่เป็นผู้กำกับลูกเสือ-เนตรนารี ก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อควบคุมและดูแลนักเรียนให้ได้รับความปลอดภัยในการเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดการเรียนรู้อย่างเต็มที่ และทางโรงเรียนจะต้องวางแผนการจัดการอย่างเป็นระบบและรัดกุมมากที่สุด ทั้งในด้านการคัดเลือกสถานที่จัดกิจกรรมที่จะต้องมีความปลอดภัยสูง มีฐานกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยของนักเรียนและสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร รวมถึงการมีวิทยากรผู้กำกับลูกเสือ-เนตรนารี ที่มีประสบการณ์เข้ามาเป็นผู้นำในการจัดกิจกรรม เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะและประสบการณ์ใหม่ๆ และกรณีที่ต้องนำนักเรียนไปเข้าค่ายพักแรมนอกสถานที่ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากคือ การเดินทางไป-กลับระหว่างโรงเรียนกับค่ายพักแรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการเดินทางไปพักแรมหรือทัศนศึกษาต่างจังหวัด จะต้องคัดเลือกรถที่จะใช้ในการเดินทางที่มีความปลอดภัยสูงสุด และจัดงบประมาณเป็นค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่น ให้กับตำรวจทางหลวง นำขบวนนักเรียนทั้งไปและกลับตลอดเส้นทาง เพื่อให้การเดินทางของนักเรียนเป็นไปโดยสวัสดิภาพ

ข้อปฏิบัติในการอยู่ค่ายพักแรม 1. เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด
2. เชื่อฟังคำสั่งของนายหมู่ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาโดยชอบธรรม
3. คอยฟังสัญญาณหรือคำสั่งจากผู้กำกับโดยพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งโดยฉับพลันและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้มอบหมายให้ดีที่สุด
4. รักษาความสามัคคีในหมู่คณะ
5. จัดเวรยามดูแลความปลอดภัยของค่ายพักแรม
6. รักษาความสะอาดในบริเวณที่พัก/ในห้องพักให้สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ
7. ไม่นอนในที่พักของผู้อื่น
8. ไม่ออกนอกบริเวณที่พัก / ค่ายพักโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้กำกับเป็นลายลักษณ์อักษร
9. ไม่ครอบครองหรือนำยาเสพติด ของมืนเมา และสิ่งอบายมุขต่าง ๆ เข้าไปในค่ายพักแรม
10.ไม่หยิบฉวยของผู้อื่นด้วยความมักง่าย
11.ไม่ทำลายสิ่งของต่าง ๆ ของค่ายพักแรมให้เกิดความเสียหาย
12.หากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องรายงานผู้บังคับบัญชาทันที
ทั้งนี้หากพบว่าลูกเสือไม่ทำตามข้อปฏิบัติในข้อ 7,8,9,10,11 จะดำเนินการส่งตัวกลับบ้านทันทีและไม่ให้ผ่านกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี
คำปฏิญาณของลูกเสือ ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า
ข้อ 1. ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ 2. ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ 3. ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ
ข้อ 1. ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ 2. ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ 3. ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ
กฎของลูกเสือ มี 10 ข้อ ข้อ 1. ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
ข้อ 2. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
ข้อ 3. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อ 4. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
ข้อ 5. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
ข้อ 6. ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ข้อ 7. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
ข้อ 8. ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ข้อ 9. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
ข้อ 10. ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
ข้อ 2. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
ข้อ 3. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อ 4. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
ข้อ 5. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
ข้อ 6. ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ข้อ 7. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
ข้อ 8. ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ข้อ 9. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
ข้อ 10. ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
พิธีการเปิดประชุม
พิธีการเปิดประชุมกอง 1. ผู้กำกับลูกเสือ-เนตรนารี เป็นบุคคลที่ควบคุมแถว 2. ให้รองผู้กำกับลูกเสือ-เนตรนารี อยู่ด้านหลังเสาธง 3. ผู้กำกับลูกเสือ-เนตรนารี นัดหมายหมู่บริการสั่ง "กอง...ตรง" 4. ลูกเสือ-เนตรนารี ทุกกอง ทุกหมู่ เคารพธงชาติ 4.1 กรณีลูกเสือ-เนตรนารี อยู่ในลักษณะมือเปล่า ผู้กำกับสั่ง "วันทยหัตถ์"..."มือลง" 4.2 กรณีที่ลูกเสือ-เนตรนารี อยู่ในลักษณะมีอาวุธ ผู้กำกับสั่ง "วันทยาวุธ"..."เรียบอาวุธ" 5. ผู้กำกับ รองผู้กำกับ พร้อมกันทำวันทยหัตถ์ 6. ตรวจความสมบูรณ์ของสุขภาพร่างกาย 7. เริ่มการประชุม 7.1 ชักธงขึ้นสู่ยอดเสา 7.2 สวดมนต์ 7.3 สงบนิ่ง 7.4 ตรวจแถว 7.5 แยกแถว 7.6 กิจกรรมตามความเหมาะสม (เพลงหรือเกม) 8. ปิดประชุมกองโดยการ 8.1 นัดหมาย 8.2 ตรวจเครื่องแบบอีกครั้ง 8.3 เชิญธงลง 8.4 เลิกแถว พิธีการเปิดประชุมรอบเสาธง 1. วิทยากร เป็นบุคคลควบคุมแถว 2. ผู้อำนวยการฝึกยืนอยู่เสาธง 3. วิทยากรนัดหมาย หมู่บริการสั่ง "กอง...ตรง" 4. ทุกกอง ทุกหมู่ เคารพธงชาติ 4.1 กรณีลูกเสือ-เนตรนารี อยู่ในลักษณะมือเปล่า ผู้กำกับสั่ง "วันทยหัตถ์"..."มือลง" 4.2 กรณีที่ลูกเสือ-เนตรนารี อยู่ในลักษณะมีอาวุธ ผู้กำกับสั่ง "วันทยาวุธ"..."เรียบอาวุธ" 5. วิทยากร คณะผู้อำนวยการฝึกพร้อมกันทำวันทยหัตถ์ 6. ตรวจความสมบูรณ์ (ถ้ามีการอยู่ค่ายพักแรมเกิน 5 วัน จะมีการส่งมอบธงเขียวด้วย) 7. เริ่มการเปิดประชุมรอบเสาธง 7.1 ชักธงขึ้นสู่ยอดเสา 7.2 สวดมนต์ 7.3 สงบนิ่ง 7.4 ผู้อำนวยการฝึกกล่าวคำปราศัย 7.5 รับรายงานผลตรวจ-ให้โอวาท 7.6 วิทยากรนัดหมาย 8. ปิดการประชุมรอบเสาธง 8.1 นัดหมาย 8.2 สวดมนต์ 8.3 สงบนิ่ง 8.4 เชิญธงลง 8.5 ร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุม คำแนะนำทั่วไป การประชุมรอบเสาธงในตอนเช้าในระหว่างการฝึกอบรม การประชุมรอบเสาธง สำหรับการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ให้มีพิธีกรหนึ่งคน ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการฝึกอบรม เป็นผู้ดำเนินการ เช่น วิทยากรประจำหมู่ วิทยากรที่ปรึกษา วิทยากรประจำกลุ่มหรือวิทยกรประจำวันเรียงตามลำดับ การปฏิบัติในการชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในตอนเช้า มีขั้นตอนตามลำดับดังต่อไปนี้ 1. ให้พิธีกรยืนอยู่หน้าเสาธง หันหลังให้เสาธง ห่างประมาร 3 ก้าว 2. พิธีกรใช้คำสั่งเรียก "กอง" ใช้สัญญาณมือเรียกแถวรูปครึ่งวงกลม (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองใช้คำสั่งเรียก "แพ็ค" แทนคำว่า "กอง") 3. การเข้าแถวรูปครึ่งวงกลมให้หมู่แรกอยู่ทางซ้ายมือของผู้เรียกเสมอ ทุกคนจะต้องจัดแถวโดยการสะบัดหน้าไปทางขวามือ ระยะเคียงระหว่างบุคคลภายในหมู่ 1 ช่วงศอก โดยให้มือซ้ายทาบสะโพกและดันศอกซ้ายให้เป็นแนวเดียวกับลำตัว ระยะเคียงระหว่างหมู่ 1 ช่วงแขน โดยให้รองหมู่ยกแขนซ้ายขึ้นวัดระยะแล้วเอาลง 4. ให้หมู่ถัดไปเข้าแถวจัดระยะเคียงระหว่างหมู่แรก เรียงกันไปตามลำดับจนครบทุกหมู่ โดยให้หมู่สุดท้ายอยู่ทางขวามือของผู้เรียกตรงกับหมู่แรก คือรองนายหมู่ของหมู่สุดท้ายจะยืนตรงกับนายหมู่ของหมู่แรก 5. เมื่อพิธีกรเห็นจัดรูปแถวเรียบร้อยแล้วจะสั่ง "นิ่ง" ทุกคนสะบัดหน้ากลับและคนที่ยกศอกซ้ายทาบสะโพกก็ลดศอกซ้ายลงยืนอยู่ในท่าตรงและนิ่ง 6. เมื่อทุกคนพร้อม พิธีกรสั่ง "ตามระเบียบ-พัก" ต่อจากนั้นพิธีกรนัดหมายตัวแทนหมู่บริการ ที่จะออกไปชักธงชาติ นำร้องเพลงชาติ นำสวดมนต์ก่อนแล้วสั่ง "กอง-ตรง" เสร็จแล้ว สั่งให้หมู่บริการเข้าไปเริ่มพิธีการชักธงชาติ (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองให้สั่ง "แพ็ค-ตรง" ก่อนเช่นเดียวกัน) พิธีกรกลับไปเข้าแถวกับวิทยากรอื่นที่เข้าแถวอยู่หลังเสาธง เมื่อจะออกคำสั่งทุกครั้งให้ก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว สั่งเสร็จให้กลับเข้าแถวตามเดิม 7. ตัวแทนหมู่บริการหรือลูกเสือในหมู่บริการรวม 2 คน ฝากไม้พลองหรือไม้ง่ามไว้กับคนข้างเคียงแล้ววิ่งออกไปยืนห่างจากเสาธงชาติประมาณ 3 ก้าว (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองให้วิ่งออกไปยืนห่างเสาธงชาติประมาณ 3 ก้าว เพราะลูกเสือสำรองไม่มีอาวุธ) 8. ทั้งสองคนทำวันทยหัตถ์พร้อมกัน คนทางขวามือเดินเข้าไป 2 ก้าว ยืนเท้าชิด แก้เชือกธงที่ผูกติดเสาธงออกถอยหลังกลับไปยืนที่เดิม แยกเชือกธงเส้นที่ชักขึ้นให้คนที่อยู่ทางซ้ายมือไว้ ส่วนธงชาติอยู่ที่คนทางขวามือ อย่าให้เส้นเชือกหย่อน ยืนเตรียมพร้อมแล้วพิธีกรสั่ง "กอง-เคารพธงชาติ วันทยาวุธ" (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองสั่ง "แพ็ค" เคารพธงชาติ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนอยู่ในท่าตรง) ผู้ให้การฝึกอบรมซึ่งยืนแถวหน้ากระดานอยู่หลังเสาธงให้ทำวันทยหัตถ์ 9. ลูกเสือตามที่ได้กำหนดไว้ 1 คน ในหมู่บริการ นำร้องเพลงชาติ ลูกเสือทุกคนร้องเพลงชาติ พอเริ่มร้องเพลงชาติให้ผู้ชักธงทางซ้ายมือค่อยๆ สาวสายเชือกให้ธงขึ้นสู่ยอดเสาช้าๆ ให้สายเชือกตึง ส่วนคนทางขวามือผ่อนสายเชือกให้ตึงเสมอกัน พอร้องเพลงจบให้ธงชาติถึงปลายเสาพอดี เสร็จแล้วให้คนทางขวามือเข้าไปผูกเชือกให้เรียบร้อยแล้วถอยหลังกลับเข้ามายืนที่เดิมในท่าตรง 10. ให้ผู้ชักธงทำวันทยหัตถ์พร้อมกัน เสร็จแล้วเอามือลง (ผู้ให้การฝึกอบรมเอามือลงพร้อมกับผู้ชักธง) กลับหลังหัน วิ่งไปเข้าแถวตามเดิมพร้อมกับรับไม้พลองหรือไม้ง่ามที่ฝากไว้ ให้ยืนตรงอยู่ในท่าวันทยาวุธ พิธีกรสั่ง "เรียบ-อาวุธ" (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองให้วิ่งกลับไปอยู่ท่าตรง) 11. พิธีกรสั่ง ถอดหมวก หมู่บริการนำสวดมนต์ ทุกคนถอดหมวกประนมมือ หมู่บริการ 1 คน นำสวดมนต์อย่างย่อ เสร็จแล้วพิธีกรสั่ง "สงบนิ่ง" ลูกเสือทุกคนยืนสงบนิ่ง 1 นาที แล้วเงยหน้าขึ้น พิธีกรสั่ง "สวมหมวก" (ตามคู่มือระเบียบแถว) ผู้ให้การฝึกอบรมปฏิบัติพร้อมกับลูกเสือตั้งแต่พิธีกรสั่งลูกเสือ "ถอดหมวก" หมู่บริการนำสวดมนต์ สงบนิ่งและสวมหมวก 12. พิธีกรสั่ง "กอง-ตามระเบียบพัก" (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองพิธีกรสั่ง "แพ็ค-ตามระเบียบพัก") แล้วพิธีกรทำซ้ายหัน ทำวันทยหัตถ์ผู้อำนวยการฝึกแล้วทำขวาหันกลับที่เดิม 13. ขณะที่ผู้อำนวยการฝึกเดินไปยืนหน้าเสาธง พิธีกรสั่ง "กอง-ตรง, วันทยาวุธ" ผู้อำนวยการฝึกทำวันทยหัตถ์ตอบ พิธีกรสั่ง "เรียบอาวุธ, ตามระเบียบพัก" (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองพิธีกรสั่ง "แพ็ค-ตรง" ทุกคนเคารพด้วยท่าตรง พิธีกรสั่ง "ตามระเบียบพัก") 14. ผู้อำนวยการฝึกกล่าวปราศรัย ดำเนินการเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เช่น รายงานการตรวจ ให้โอวาท ขั้นตอนจบพิธีกรสั่ง "กอง-ตรง, วันทยาวุธ" ผู้อำนวยการฝึกทำวันทยหัตถ์ตอบ พิธีกรสั่ง "เรียบอาวุธ, ตามระเบียบพัก" (ถ้าเป็นลูกเสือสำรองพิธีกรสั่ง "แพ็ค-ตรง" ทุกคนเคารพด้วยท่าตรง พิธีกรสั่ง "ตามระเบียบพัก") 15. พิธีกรนัดหมาย แล้วสั่ง "กอง-ตรง, กอง-แยก" (ถ้าเป็นลูกเสือสำรอง พิธีกรสั่ง"แพ็ค-ตรง, แพ็ค-แยก") |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น